น้ำมันเครื่องส่วนใหญ่มันจะลดลงตามการใช้งานเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้ามันเกิดลดลงฮวบฮาบ หมดไวกว่าที่เคยเป็น แบบนี้ค่อนข้างที่จะอันตรายทีเดียว เพราะหากไม่มีน้ำมันหล่อลื่นภายใน เครื่องยนต์พังแน่นอน แต่ปัญหานี้เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้ครับ
1.เครื่องยนต์สึกหรอมาก
ทำให้การเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ หรือที่กระบอกสูบไม่สมบูรณ์เต็มที่ โดยเฉพาะที่ กระบอกสูบ ลูกสูบ และแหวนลูกสูบ ดังนั้นแนะนำว่าควรเปลี่ยนชิ้นส่วนเหล่านี้ใหม่ทั้งหมดโดยทันที
2.เครื่องยนต์มีอาการรั่วซึม
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ให้ดูจุดที่จอดรถเป็นประจำ ว่ามีน้ำมันหยดลงที่พื้นหรือเปล่า จากนั้นจึงค่อยไปตรวจหาคราบน้ำมันตามซีลยางต่างๆ และประเก็นของเครื่องยนต์ เนื่องจากสิ่งของพวกนี้มีอายุ และมีการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน และหากเจอจุดรั่วซึมแล้ว ให้รีบเข้าไปที่อู่ หรือศูนย์บริการเพื่อทำการซ่อมแซม แก้ไข หรือเปลี่ยนใหม่โดยเร็ว
3.กระบอกสูบ, ลูกสูบหรือแหวนลูกสูบสึกหรอมาก หรือเสียหาย
จะทําให้น้ำมันหล่อลื่นเข้าไปเผาไหม้ในกระบอกสูบมากกว่าปกติ ทําให้สิ้นเปลืองน้ำมันหล่อลื่น ควรคว้านกระบอกสูบใหม่ หรือเปลี่ยนกระบอกสูบหรือแหวนลูกสูบใหม่ โดยใช้ขนาดโตกว่าเดิม หรือ โอเวอร์ไซส์
4.ก้านวาล์วสึกหรอ หรือหมดอายุการใช้งาน
ทำให้มีการเผาไหม้ไม่เต็มที่ในกระบอกสูบ วิธีแก้ไขคือ รีบเปลี่ยนก้านวาล์วใหม่
5.ร่องนำวาล์วสึกหรอ หรือหมดอายุการใช้งาน
ทําให้น้ำมันหล่อลื่นไหลผ่านร่องน้ำวาล์วเข้าไปเผาไหม้ในกระบอกสูบ เป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันหล่อลื่น ควรเปลี่ยนร่องน้ำวาล์วใหม่
6.เครื่องยนต์มีความร้อนสูงผิดปกติ
แม้มันจะเกิดขึ้นได้ยากในรถรุ่นใหม่ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เพราะหากคุณใช้งานรถยนต์ หรือขับทางไกลนานๆ พอมาตรวจเช็กอีกทีกลับพบว่า น้ำมันเครื่องหายไปมากกว่าปกติที่เคยเป็น คุณก็ควรจะรีบนำรถไปเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ทันที ไม่เช่นนั้นมันอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของเครื่องยนต์ได้
ปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะหากปล่อยปละละเลยไว้นานๆ เครื่องยนต์มีปัญหาหนักแน่ ดังนั้นควรตรวจเช็กน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ทันการ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.sanook.com/auto
26 ตุลาคม 2562
ผู้ชม 12668 ครั้ง