หนึ่งในประเด็นคำถามที่ตั้งกระทู้อยู่ในโลกออนไลน์สำหรับคนใช้รถเกียร์ออโต้ ก็คือหากรถของคุณจอดรถติดไฟแดง ควรเหยียบเบรกและเข้าเกียร์ D ค้างเอาไว้ หรือเปลี่ยนเกียร์มาอยู่ที่ตำแหน่ง N หรือเกียร์ว่าง แบบไหนถึงจะยืดอายุการใช้งานของรถและเกียร์ได้ดีกว่ากัน
ซึ่งคำตอบในเว็บบอร์ดยานยนต์ส่วนใหญ่ ก็มีทั้งคำแนะนำในแนวทางแรก ที่ให้เหยียบแป้นเบรกค้างเอาไว้ พร้อมกับเข้าเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เพื่อป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปมา อันจะทำให้เกิดความเสียหายระบบเกียร์ ส่วนอีกมุมหนึ่งก็มองว่า การเข้าเกียร์ N แล้วขึ้นเบรกมือ ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อระบบเกียร์แต่อย่างใด
แล้วสุดท้ายควรเลือกแนวทางใด ?
การทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ หากเข้าเกียร์จากตำแหน่ง D ไป N สลับไปสลับมาบ่อยๆ แน่นอนว่าจะทำให้เกิดการสึกหรอในระบบเกียร์มากขึ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีเกียร์ออโต้ในรถยุคใหม่ การเปลี่ยนจากเกียร์ D ไป เกียร์ N ในช่วงจอดติดไฟแดง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเกียร์มากนัก ทางออกที่ควรจะเป็นคือ อยู่ที่การประเมินสถานการณ์ในช่วงเวลารถติด โดยหากดูแล้ว ติดยาวเกิน 2-3 นาที การเข้าเกียร์ N และดึงเบรกมือช่วยเพื่อความมั่นใจว่ารถจะไม่ไหลน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
หากอยู่สถานการณ์ที่ท้องถนนเวลานั้น รถเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งภายในเวลา 30 วินาที ถึง 1 นาที การเลือกที่จะเหยียบเบรกค้างเอาไว้ พร้อมกับรักษาตำแหน่งเกียร์ไว้ที่เกียร์ D ย่อมเป็นแนวทางที่ควรปฏิบัติมากกว่า เพื่อยืดอายุการใช้งานเกียร์รถของคุณ
คำเตือน! ไม่แนะนำให้เข้า P เด็ดขาด!
แม้เกียร์ P จะเป็นเกียร์สำหรับจอดรถ และทำให้รถหยุดนิ่ง ไม่ไหลอย่างแน่นอน แต่ต้องจำไว้เสมอว่า P คือ Parking นั่นหมายความว่าจะใช้เกียร์นี้ ก็ต่อเมื่อคุณจอดรถดับเครื่องเท่านั้น ฉะนั้นแนะนำว่าขณะรถติดไม่ควรที่จะขยับตำแหน่งเกียร์ไปที่ P เป็นอันขาด ที่สำคัญมันอาจทำให้คุณพลาดได้เวลาออกตัว เพราะคุณจะต้องดันคันเกียร์ผ่านทั้งเกียร์ R (ถอยหลัง) และเกียร์ N (เกียร์ว่าง) ก่อนที่จะไปถึงเกียร์ D (ขับเคลื่อน) นั่นเอง
ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก tonkit360.com และ sanook.com/auto
26 ตุลาคม 2562
ผู้ชม 3063 ครั้ง