7 จุดต้องเช็คก่อนเดินทางไกล

หลายๆท่านอาจมีแผนต้องขับรถไกลๆ แต่ก่อนเดินทางแต่ละครั้งนั้น เราควรเช็คความฟิตของรถของเราเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และ ป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกินขึ้นด้วย

P.SPP Ranong มีเคล็ดลับมาฝาก ด้วย 7 จุดต้องเช็คก่อนเดินทางไกล

1.ของเหลวในครื่องยนต์
น้ำมันเครื่อง : น้ำมันเครื่องควรอยู่ในระดับ Max หากน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับ Min ควรนำรถไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจอบ และต้องสังเกตุสีน้ำมันเครื่องไม่ควรข้นดำจนเกินไป ซึ่งควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด
น้ำมันเกียร์ : น้ำมันเกียร์อัตโนมัติควรตรวจเช็คตอนเครื่องร้อน โดยติดเครื่องยนต์ประมาณ 15 นาที แล้วเหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และเลื่อนคันเกียร์ช้าๆ จาก P ไปถึง L และเลื่อนกลับช้าๆ มาที่ P ตรวจสอบก้านวัด ถ้าอยู่ตรงช่วง Hot คือระดับน้ำมันเกียร์ปกติ (เกียร์ CVT ไม่มีก้านวัด ต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ)
น้ำมันเบรก : ระดับน้ำมันเบรกอยู่ในระดับ Max หากต้องเติม ต้องเติมให้ตรงกับระบบเบรกตามที่คู่มือแนะนำ
น้ำในหม้อน้ำและระบบพักน้ำ : ระดับน้ำในหม้อพักอยู่ในระดับที่กำหนด และน้ำในหม้อน้ำไม่เป็นสนิม ไม่มีรอยรั่วซึมตามจุดต่างๆ

2.แบตเตอรี่
เช็คแบตเตอรี่โดยการดูที่ขั้วต่อ และสายไฟว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หากเป็น แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรเติมน้ำกลั่นแบตเตอรรี่ให้อยู่ในระดับที่กำหนดก่อนออกเดินทาง หากใช้งานมาแล้ว 1.5 – 2 ปี ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คประสิทธิภาพการเก็บประจุไฟ

3.ที่ปัดน้ำฝน
ควรเช็คระบบฉีดล้างกระจกว่าใช้งานได้ปกติ และใบปัดน้ำฝนสามารถปัดทำความสะอาดได้ดี

4.ไฟส่องสว่าง
ตรวจสอบไฟส่องสว่างทั้งในและนอกรถว่าใช้งานได้ปกติทุกดวง รวมถึงตรวจเช็คระดับองศาไฟหน้าไม่ให้สูงจนเกินไป จนทำให้รถกวนการขับขี่ของท่านอื่นๆบนท้องถนนได้

5.แตรและแผงควบคุม
แตรรถต้องใช้ได้เป็กปกติ และ เช็คสัญญาณไฟบนคอนโซลหน้าว่ามีปกติหรือไม่ มีสัญญาณใดแจ้งเตือนหรือเปล่า ถ้ามีสัญญาณไฟแจ้งเตือน ควรนำรถไปเช็คสภาพกับผู้เชี่ยวชาญ

6.ยางและลมยาง
เช็คความดันลมยางให้มีปริมาณที่เหมาะสมตามมาตรฐาน หรือสังเกตขอบประตูด้านในฝั่งคนขับจะมีตัวเลขความดันลมยางที่เหมาะสมระบุเอาไว้ ดอกยางต้องไม่สึกจนถึงสะพานยาง และยางไม่มีรอยฉีดขาด

7.ชุดเครื่องมือประจำรถ
ในรถควรมีชุดเครื่องมือประจำรถ เช่น แม่แรง ประแจ คีม บล็อกถอดล้อ ที่ทุบกระจก สายพ่วงแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

นอกจากเช็คสภาพรถแล้ว ความพร้อมทางร่างกายของผู้ขับขี่ก็สำคัญเช่นกัน โดยต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ศึกษาเส้นทางที่จะไปให้ดี คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่ รวมถึงอย่าลืมพกใบอนุญาตขับขี่ไปด้วยทุกครั้ง